ประวัติความเป็นมา คลิปวีดีโอจาก : โตโต้ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (https://www.youtube.com/watch?v=R5iFz3Z7WIA)
ประวัติความเป็นมาเดิมชาวแสกมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองรองขึ้นกับกรุงเว้อยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนามและจีนชนเผ่าแสกเป็นชนเผ่าที่มีความอุสาหะบากบั่นยึดมั่นในความสามัคคีเมื่อเห็นภูมิลำเนาเดิมไม่เหมาะสมจึงได้รวมสมัครพรรคพวกอพยพหาที่อยู่ใหม่โดยอพยพลงมาตามลำน้ำโขงแล้วมาตั้งถิ่นฐานชั่วคราวอยู่ระหว่างประเทศเวียดนามกับประเทศลาวโดยมีท้าวกายซุและท้าวกายชาเป็นหัวหน้าในการอพยพต่อมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยากษัตริย์ของไทยชาวแสกได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงมาตั้งถิ่นฐานมาอยู่ที่ป่าหายโศกการอพยพของชาวแสกแต่ละครั้งนั้ไม่ได้ถูกบังคับหรือถูกข่มแหงแต่อยู่ใดเมื่อชาวแสกเห็นว่าบริเวณป่าหายโศกเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรต่างๆจึงได้อพยพกันมาประกอบอาชีพอยู่แห่งนี้เรื่อยมาจนถึงสมัยพระสุนทรเป็นเจ้าเมืองได้พิจารณาเห็นว่าชาวแสกมีความสามารถและความเข้มแข็งสามารถปกครองตนเองได้จึงได้ยกฐานะของชาวแสกขึ้นเป็นเมืองโดยได้เปลี่ยนชื่อใหม่จากป่าหายโศกเป็นเมืองอาจสามารถหรือบ้านอาจสามารถ จนทุกวันนี้
แหล่งท่องเที่ยวชุมชน และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
- ศาลโองมู้
- ศูนย์วัฒนธรรมชนเผ่าไทยแสก
การประกอบอาชีพ
- การเลี้ยงปลากระชัง
- ทำอาชีพเกษตรกร
ความเชื่อ ประเพณี ความสำคัญ ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวไทยแสก
พิธีกินเตดเดน เป็นประเพณีพิธีกรรมอย่างหนึ่ง โดยการประกอบพิธีกรรมขึ้นมาเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อ โองมู้ ที่ชาวไทแสกเคารพนับถือ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวไทแสก เป็นผู้มีพระคุณต่อลูกหลานรุ่นหลังๆ สืบต่อกันมา โองมู้ จะทำหน้าที่คุ้มครองอันตรายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน และดลบันดาลให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นตามที่ บนบาน โดยมี กวนจ้ำ เป็นสื่อกลางในการประกอบพิธีกรรม แต่ถ้าหากลูกหลานประพฤติมิชอบ ไม่เหมาะสม หรือทำพิธีบนบานแล้วไม่ประพฤติปฏิบัติตามในสิ่งที่ถูกดีงามหรือไม่มีพิธีกรรม พิธีแก้คำบนบาน ก็จะทำให้เกิดเหตุเภทภัยในครอบครัว
พิธีบวงสรวง โองมู้ โดยการแสดง แสกเต้นสาก
ในสมัยก่อนการเต้นสากของชาวแสก ถือว่าเป็นการละเล่นประจำเฉพาะพิธีบวงสรวง โองมู้ ในวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ ชาวแสกเรียกว่า พิธีกินเตดเดน จะมีการแสดง แสกเต้นสากถวายโองมู้ โดยใช้ไม้สากตีกระทบกันเป็นจังหวะ สากที่ใช้ตีในการเต้นสากก็คือไม้สากที่เป็นสากตำข้าวในใสมัยโบราณ แต่ขนาด ยาวกว่าตรงกลางเรียวเล็ก ไม้รองพื้นสากจะใช้ไม้อะไรรองก่อนก็ได้มีจำนวน 1 คู่ ขอให้มีขนาดเท่ากัน แสกเต้นสาก จะมีให้เห็นเฉพาะในวันบวงสรวงโองมู้เท่านั้น หากมาไม่ตรงวันจะต้องเป็นแขกกิตติมศักดิ์ระดับ ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง เขาถึงจะยอมเต้นให้ชม
การแสดง
1. เซ่นไหว้ศาลเจ้าโองมู้
2. แสกเต้นสาก
อาหารเด่นประจำชนเผ่า
1. ปล๋าเผาะเผ่ากราบโครุ่ง (ปลาเพาะห่อกาบกล้วย) อาหารประจำธาตุ “ไฟ”
ความเป็นมาของอาหาร
ตั้งแต่สมัยก่อนหากชาวบ้านหาปลามาได้แล้วจะนำปลาไปเผาทานเปล่าๆ ต่อมาต้องการเพิ่มรสชาติและให้ปลาไม่แห่งจนเกินไปจึงนำกาบของต้นกล้วยมาห่อก่อนแล้วจึงเผา ปลาเผาะ เป็นปลาที่หาทานง่ายในบริเวณที่ชนเผ่าไทยแสกอาศัยอยู่ จึงมีการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้ไว้จนเป็นปลาเศรษฐกิจของชาวบ้าน เมื่อมีแขกหรือผู้มาเยือน ชาวบ้านนิยมนำเมนูนี้ขึ้นมาวางไว้ในสำรับ จึงกลายเป็นอาหารเอกลักษณ์ของชนเผ่าไทยแสก ประโยชน์ทางอาหาร เป็นอาหารที่มีพลังงานไม่ทำให้อ้วน
2. เอ๊าะไหก๋ปล๋า (เอาะพื้นท้องปลา) อาหารประจำธาตุ “น้ำ”
ความเป็นมาของอาหาร
ปลาเผาะ เป็นปลาที่หาทานง่ายในบริเวณที่ชนเผ่าไทยแสกอาศัยอยู่ จึงมีการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้ไว้จนเป็นปลาเศรษฐกิจของชาวบ้าน สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ประโยชน์ทางอาหาร เป็นอาหารที่มีพลังงานไม่ทำให้อ้วน น้ำมันบริเวณพื้นท้องปลาและเครื่องในปลามีวิตามินมาก
ที่มา : Thailand Tourism Directory กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (https://thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/detail/itemid/22157)