7 วันอันตราย 4 อำเภอของนครพนม อุบัติเหตุเป็นศูนย์
วันที่ 5 มกราคม 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ร่วมประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 4 มกราคม 2564 และปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 จังหวัดนครพนม
โดยตลอด 7 วันที่ผ่านมา จังหวัดนครพนมมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งสิ้น 30 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 28 ราย ผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งมีอำเภอที่ไม่เกิดอุบัติเหตุเลย จำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาทม วังยาง นาหว้าและอำเภอเรณูนคร ส่วนอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุมากสุด ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม 13 ครั้ง รองลงมาคืออำเภอบ้านแพง 9 ครั้ง อำเภอธาตุพนม 3 ครั้ง ส่วนอำเภอนาแก ท่าอุเทน ศรีสงคราม ปลาปาก และอำเภอโพนสวรรค์ เกิดเหตุอำเภอละ 1 ครั้ง
สำหรับ 10 มาตรการหลักในการบังคับใช้กฎหมายมีการเรียกตรวจ จำนวน 126,501 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี 18,915 คน เป็นผู้ไม่มีใบขับขี่มากสุดถึง 1,147 คน โดยยานพาหนะที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากสุดคือรถจักรยานยนต์ รองลงมาเป็นรถเก๋ง รถกระบะ และรถบรรทุก ส่วนสาเหตุและพฤติกรรมที่นำไปสู่การสูญเสีย ได้แก่ การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด เมาสุรา ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด และทัศนวิสัยไม่ดี ซึ่งถนนที่เกิดอุบัติเหตุมากสุดเป็นถนนในหมู่บ้าน รองลงมาเป็นถนนหลวงแผ่นดิน ถนนในเทศบาล และถนนทางหลวงชนบทตามลำดับ
โดยในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนมในฐานะเลขานุการศูนย์ฯ เร่งดำเนินการสรุปรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่ได้บูรณาการร่วมกันถอดบทเรียนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุ สถานที่เกิดเหตุ อุบัติเหตุกรณีศึกษา แนวทางการสืบสวน การวิเคราะห์สาเหตุ แนวความคิดเพื่อแก้ปัญหาและแนวทางปฏิบัติของอำเภอที่ประสบผลสำเร็จจนมีอุบัติเหตุเป็นศูนย์ เพื่อนำมาร่วมกันวางแผนและขับเคลื่อนงานป้องกันและลดอุบัติทางถนนของจังหวัด ที่ต้องดำเนินการตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการปลูกจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ เพราะจากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุใน 7 วันอันตรายครั้งนี้ พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นไม่มีคู่กรณีและเป็นคนในพื้นที่ที่มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดมีความรุนแรงและนำไปสู่การสูญเสีย
**********คลิปข่าว https://www.facebook.com/prdnakhonphanom2555/posts/3507549066008978